วิธีการฝึกสร้างความคิดสร้างสรรค์
ลองมาทายกันว่าใครที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดในโลก สตีฟจ็อฟรึเปล่า หรือจะเป็นศิลปินสรรค์สร้างงานศิลป์ คำตอบก็คือ ใช่ แต่ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุด ความจริงแล้วคำตอบที่ถูกต้องที่สุดนั่นคือ เด็กๆนี่แหละ แต่ความคิดสร้างสรรค์ของพวกเค้าก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถนำไปผลิตนวัตกรรมนู่นนี่นั่นได้ เพียงแต่เด็กๆสามารถผลิตความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นจำนวนมาก จนบางครั้งก็ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆรำคาญด้วยซ้ำไป
ในสมองของเราทุกคนจะมีส่วนหนึ่งที่เรียกว่า Creative muscle (กล้ามเนื้อแห่งความสร้างสรรค์) ให้ลองจินตนาการย้อนกลับไปในวัยเด็กของเราดู เราสามารถคิดอะไรนู่นนี่นั่นได้อย่างมากมาย กลับกันแต่เมื่อเราโตขึ้น ไอ่เจ้ากล้ามเนื้อมัดนี้ของมันกลับฝ่อ อ่อนแอลง เพราะระบบการศึกษาที่ไม่ได้สอนเกี่ยวกับเรื่องความคิดสร้างสรรค์แล้วนั่งเอง เราถูกสอนเรื่องกระบวนการทางความคิด ตรรกกะ
คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ พูดจาเรื่อยเปื่อย ไร้สาระ มักจะถูกมองว่าโง่ เรื่องต่างๆพวกนี้นี่แหละเป็นตัวการทำลายกล้ามเนื้อแห่งความสร้างสรรค์ที่เราสร้างมาตั้งแต่วัยเด็ก
อย่างที่บอกไปว่าเจ้านี่มันเป็นกล้ามเนื้อ เมื่อตอนนี้ที่กล้ามเนื้ออ่อนแอ เราก็แค่ทำให้มันกลับมาแข็งแรงอีกรอบ ลองจินตนาการเปรียบเทียบว่ามันเป็นกล้ามแขนของเรา เวลามันแฟบ เราก็ต้องไปเวทเทรนนิ่งมัน เช่นเดียวกันเราสามารถทำให้กล้ามเนื้อแห่งความสร้างสรรค์มันกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งโดยการฝึกฝนมัน เปรียบเหมือนการขี่จักรยาน ให้อ่านทฤษฎีให้ตาย ถ้าคุณไม่ฝึกยังไงก็ไม่มีวันจะขี่มันได้ ทางเดียวที่จะทำให้ขี่จักรยานเป็นก็คือ คุณจะต้องลงมือไปขี่มัน และแน่นอนว่าการขี่ครั้งแรกก็คงไม่ได้สวยงาม จะต้องเกิดเหตุการณ์ล้มลุกคลุกคลานเป็นเรื่องปกติของการเรียนรู้ทักษะใหม่
ถ้าคุณอยากจะมีความคิดสร้างสรรค์ อยากสร้างไอเดียใหม่ๆได้ คุณต้องหัดพูดในสิ่งที่ไม่เคยพูด หัดพูดอะไรที่มันไม่มีสาระต่อหน้าคนอื่นบ้าง การกระทำแบบนี้เป็นการยกเวทให้โดนกล้ามเนื้อความคิดสร้างสรรค์ของเรา พอทำเข้าบ่อยๆจะทำให้เจ้านี่กลับไปแข็งแรงเหมือนอย่างวันวานอีกครั้ง
รู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องฝึกฝนด้วยนะ
Post it มีอะไรดีนะ
การประชุมที่ดีแน่นอนว่าต้องมีการจดบันทึก ไม่งั้นการประชุมของเราก็ไม่มีประสิธิภาพ สาระสำคัญลอยหายไปกับสายลม เรียกได้ว่าเป็นการประชุมที่ไม่มีผลลัพธ์ (แล้วจะประชุมไปทำไมนะ?) สมัยนี้ห้องประชุมอย่างน้อยก็ต้องมี Flip chart เพื่อจดบันทึกกันอยู่แล้วหละ แต่ปัญหาของกระดานนี้คือ เราไม่สามารถจะจัดกลุ่มของไอเดียได้อย่างอิสระ ต้องมาลบๆเขียนๆวงๆลากๆ ซึ่งมันโคตรจะลำบาก ทำให้เข้าใจยาก แถมยังเละเทะไม่สวยงามอีกด้วย สุดท้ายเราก็จะใช้มือถือถ่ายรูปมันไปเก็บไว้ แล้วก็ลืมมันไปตามกาลเวลา
การที่เราจะต้องสร้างไอเดียทั้งหมด 200 ไอเดียภายใน 20 นาทีเหมือนอย่างตอน แปดบรรทัดครึ่ง EP1 – เทคนิค คิดนอกกรอบ ระดับโลก นั้น เราสามารถทำให้ภารกิจของเราสำเร็จได้ง่ายขึ้นโดยใช้เจ้า Post it นี่แหละ
ขั้นตอนของการนำโพสอิท มาช่วยนั้น เริ่มจากแจกมันให้กับทุกคน คนละ 1 ปึก พร้อมปากกาอีก 1 ด้าม หลังจากนั้นให้ทุกคนไปยืนมุงกันที่หน้ากระดาน ลงมือเขียนไอเดียของตัวเอง 1 ไอเดีย ต่อโพสอิท 1 แผ่น จากนั้นก็แปะลงไปบนกระดานพร้อมกับอกกเสียงบอกคนอื่นว่าไอเดียวของเราคืออะไร โดยที่ยังไม่ต้องตัดสินไอเดียกัน ทำไปจนครบทั้ง 200 ไอเดีย อาจจะเจอไอเดียที่คล้ายหรือซ้ำกันบ้างก็ไม่เป็นไร ท้ายที่สุดเราจะได้เห็นรูปแบบของไอเดียที่คล้ายคลึงกัน สามารถนำไอเดียเหล่านั้นมาจัดหมวดหมู่ให้อย่างชัดเจน ต่อไปคือลงมือสนทนาตัดสินไอเดียกัน สุดท้ายเราจะได้เห็นไอเดียที่โดดเด่นและน่าหยิบไปทำ
หลายครั้งที่เราใช้เวลาไปกับการจัดกลุ่มของไอเดียบนกระดาน เจ้าโพสอิทเนี่ยแหละเป็นคำตอบสุดท้ายในการลดเวลาให้กับขั้นตอนนี้ นอกจากมันสามารถย้ายไปติดที่ไหนก็ได้แล้ว มันทำให้การจัดกลุ่มของไอเดียเป็นงานง่ายขึ้นมาก สิ่งต่างๆพวกนี้นี่แหละที่ทำให้การระดมสมองของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ฟังเนื้อหาเต็มได้ที่ แปดบรรทัดครึ่ง EP2 – สร้างไอเดียใหม่ๆ ด้วย Post it อย่างถูกวิธี
ขอบคุณ แปดบรรทัดครึ่ง Podcast