สำหรับใครสนใจและยังไม่เคยใช้ Apple Ecosystem อาจจะมีคำถามว่า ต้องเตรียมเงินเท่าไร ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง วันนี้เราจะมาเลือกอุปกรณ์และคำนวณราคาให้ได้ดูกันครับ
Apple Ecosystem ดียังไง
- รับ-ส่งข้อมูลในแต่ละอุปกรณ์สะดวก ตัวอย่างเช่น ถ้าเราถ่ายรูปด้วย iPhone แล้วอยากส่งรูปไปให้ Macbook เพื่อไปทำงานต่อ ก็สามารถทำได้ง่ายๆแค่ส่งรูปผ่านเทคโนโลยี AirDrop
- ความปลอดภัยขั้นสุดยอด ข้อมูลผู้ใช้งานไม่รั่วไหล มั่นใจได้ อย่างข่าวที่เราเคยเห็นกัน ขนาด FBI ยังต้องยอมแพ้ในการขอให้ Apple ปลดล็อก iPhone ให้ จนทำให้เกิดปัญหาระหว่างบริษัทกับรัฐมาแล้ว ไม่เพียงแค่นั้นตั้งแต่ iPhone Xs จนถึงปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีปลดล็อกด้วย Face ID ทำให้ตัวเครื่องปลอดภัยไปอีกขั้น
- ซอฟต์แวร์เสถียร ปัญหาน้อย ใช้งานได้นานมาก เช่น ระบบปฏิบัติการ iOS ที่ใช้งานง่าย สามารถอัพเดทได้อย่างต่ำ 3 – 4 ปี
- อุปกรณ์ทุกชิ้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย User Experience ดี
- บริการหลังการขายดี
- ขายต่อง่าย ราคาตกน้อยกว่าแบรนด์อื่นๆ
สินค้าปัจจุบันของบริษัท Apple
ไลน์สินค้าปัจจุบันของบริษัท Apple ขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ แบ่งออกได้เป็น 7 ประเภทหลักๆด้วยกันตามนี้
- Mac
- iPad
- iPhone
- Watch
- TV
- อุปกรณ์เสริม
- ซอฟต์แวร์
มาหยิบอุปกรณ์ลงตะกร้ากัน
เราจะมาลองคำนวณราคาอุปกรณ์ให้ครบทั้ง Apple Ecosystem มาเริ่มกันเลย
MacBook Pro
เริ่มต้นด้วย MacBook Pro 16 นิ้วที่เป็น Laptop เรือธงของบริษัท สำหรับใช้ทำงานนอกสถานที่
สเปคของตัวเครื่อง
CPU: Intel Core i9 (Gen 9) 8-core ความเร็ว 2.3GHz ที่มี Turbo Boost สูงสุด 4.8GHz
RAM: DDR4 16GB Bus 2666MHz
GPU: AMD Radeon Pro 5500M GDDR6 4GB
SSD: 1TB
มาพร้อมกับ Touch Bar และ Touch ID
ค่าตัวอยู่ที่ 89,900 บาท
iMac Pro
ถัดมาเป็น iMac Pro ที่เป็น All-in-one PC ตัวท็อปของบริษัท สำหรับใช้งานภายในบ้าน
สเปคตัวเครื่อง
CPU: Intel Xeon W 8-core ความเร็ว 3.2GHz ที่มี Turbo Boost สูงสุด 4.2GHz
RAM: DDR4 แบบ ECC 32GB Bus 2666MHz
GPU: AMD Radeon Pro Vega 56 พร้อมหน่วยความจำแบบ HBM2 8GB
SSD: 1TB
มาพร้อมกับ Magic Mouse 2 และ Magic Keyboard
ค่าตัวอยู่ที่ 172,900 บาท
iPad Pro
ต่อด้วย iPad Pro 12.9 นิ้วที่เป็นแท็ปเล็ตทรงประสิทธิภาพที่สุดของเค้า สำหรับไว้ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ วาดรูป เล่นโซเซียล หรือจะตัดต่อวิดีโอก็ทำได้ แถมจอใหญ่สบายตา
สเปค
CPU: A12Z Bionic พร้อม Neural Engine
Display: Liquid Retina ขนาด 12.9 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด 2732 x 2048 ที่ 264 พิกเซล
Back Camera: กล้อง Wide ความละเอียด 12MP f1.8, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 10MP f2.4 มาพร้อมแฟลชแบบ True Tone และ LiDAR Scanner
Front Camera: ความละเอียด 7MP
Speakers: ด้านบน 2 จุด และด้านล่าง 2 จุด
Microphone: ระดับ Studio
ค่าตัวอยู่ที่ 34,900 บาท
Apple Pencil 2
หลังจากที่เรามี iPad Pro แล้ว อุปกรณ์เสริมที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ Apple Pencil สำหรับใช้จดโน้ต วาดรูปได้อย่างใจเลย
สิ่งที่ Apple Pencil 1 ต่างจาก Apple Pencil 2 ก็คือ ตัวปากกาสามารถชาร์ตผ่าน iPad Pro โดยการแปะไว้ด้านข้างได้ มีดีไซน์และสีที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย มีความสามารถใหม่ที่สามารถแตะปากกาเพือเปลี่ยนอุปกรณ์ในการวาดรูปและจดโน้ตได้
ค่าตัวอยู่ที่ 4,490 บาท
Magic Keyboard
นอกจาก Apple Pencil แล้ว ยังต้องมี Magic Keyboard ที่ช่วยให้เราใช้งาน iPadOS ได้สะดวกขึ้นและยังสามารถเป็นเคสในตัวได้อีกด้วย
Magic Keyboard ตัวนี้มาพร้อมกับ Trackpad มีไฟ Backlit ทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ในการใช้ iPad ไปอีกขั้น
ค่าตัวอยู่ที่ 9,990 บาท
AirPods Pro
ในเมื่อ iPad Pro ของเราไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5mm ก็ต้องกด AirPods Pro มาใช้ด้วยซะหน่อย
ความพิเศษของเจ้า AirPods Pro ที่เป็นหูฟังแบบ True Wireless ไม่มีสายมากวนใจเวลาใช้งาน และยังมีระบบตัดเสียงรบกวนด้วย (Noise Cancelling)
ราคา 9,490 บาท
iPhone 11 Pro
สิ่งที่สำคัญเปรียบได้กับปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ก็คือโทรศัพท์มือถือ ว่าแล้วก็กด iPhone 11 Pro ไปอีกซักเครื่อง
จุดเด่นของ iPhone 11 Pro คือเรื่องกล้องที่มาพร้อมกับเลนส์ถึง 3 แบบ มีชิพ A13 ตัวใหม่ที่ทำงานได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว
ค่าตัวอยู่ที่ 39,900 บาท
Apple Watch Series 5
ถัดไปเป็น Apple Watch สำหรับดูเวลา ข้อความ การแจ้งเตือน รวมถึงการจับชีพจร รวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆขณะเราออกกำลังกาย
จุดเด่นของ Apple Watch Series 5 คือ ตัวเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ มีหลายสี หลายแบบให้เลือก
ค่าตัวอยู่ที่ 17,900 บาท
Apple TV 4K
สำหรับเรื่อง Entertainment ต้องยกให้ Apple TV 4K ที่ไม่ว่าจะนอนดู iTune Movie หรือ Netflix ก็สามารถทำได้ครบ
Apple TV 4K มาพร้อมกับหน่วยความจำ 64GB รีโมทที่ใช้งานง่าย ด้วยปุ่มที่มีน้อยกว่ารีโมททั่วไป
ค่าตัวอยู่ที่ 8,210 บาท
สรุปราคาทั้งหมดของ Apple Ecosystem
หลังที่เรากดอุปกรณ์เข้าตะกร้ามาทั้ง 9 ชิ้น มาทวนกันอีกครั้งว่ามีอะไรกันบ้าง
- Macbook Pro ราคา 89,900 บาท
- iMac Pro ราคา 172,900 บาท
- iPad Pro ราคา 34,900 บาท
- Apple Pencil 2 ราคา 4,490 บาท
- Magic Keyboard ราคา 9,990 บาท
- AirPods Pro ราคา 9,490 บาท
- iPhone 11 Pro ราคา 39,900 บาท
- Apple Watch Series 5 ราคา 17,900 บาท
- Apple TV 4K ราคา 8,210 บาท
สิริรวมราคาอยู่ที่ 383,680 บาท เรียกว่าลมจับไปตามๆกันนะครับ
นี่เป็นตัวอย่างแค่อุปกรณ์เท่านั้น ยังไม่รวมราคาซอฟต์แวร์ที่แต่ละคนต้องใช้งานต่างกันไปอีก อุปกรณ์บางตัวก็อาจจะไม่จำเป็นสำหรับทุกคน ใครอยากอุปกรณ์หรือสินค้าตัวไหนก็ลองเข้าเช็คราคากันได้ทาง Apple ได้เลยครับ